จากเมืองหลวงสู่เมืองมรดกโลก Melaka World Heritage City

0

จากเมืองหลวงสู่เมืองมรดกโลก Melaka World Heritage City

147 กิโลเมตรจากกัวลาลัมเปอร์มุ่งหน้าสู่เมืองมะละกา






ชายฉกรรจ์ทั้ง 4 พร้อมด้วยม้าเหล็ก ยานพาหนะคู่กายกับอาหารที่กินคือน้ำมัน

10 โมงเช้าหลังจากเติมเชื้อเพลิงในร่างกายเสร็จ ทุกคนเข้าประจำตำแหน่งพร้อมกับอาวุธครบมือ Google map , Waze , Gopro และกล้องถ่ายรูป

บนเส้นทางที่เต็มไปด้วยแยกไฟแดง ถนนคดเคี้ยวไปมา ต่อให้มีอาวุธดีแค่ไหนก็โดนเล่นงานจากถนนอยู่ดี 

ม้าเหล็กแต่ละคันใช้อาวุธที่ต่างกัน คันหนึ่งใช้Google map แต่อีกคันเลือกใช้ Waze

ถึงอย่างไรก็แล้วแต่ ต่อให้เดินกันคนละเส้นทางแต่เป้าหมายเดียวกันอยู่ดี 

ครึ่งทางผ่านไป ม้าเหล็กเริ่มหมดเรี่ยวแรง ต้องเติมเชื้อเพลิงและเดินทางต่อไป 

ในที่สุดม้าเหล็กก็ได้ควบพาชายฉกรรจ์ทั้ง 4 มาถึงเมืองเป้าหมาย โดยที่ม้าเหล็กตัวแรกแรงดีไม่มีตกถึงที่หมายล่วงหน้าก่อน 1 ยาม
เมื่อทั้ง 4 ได้มาถึง สิ่งแรกที่ทำคือการหาที่จะพำนักค้างแรม
หลังจากมองหาอยู่นานสุดท้าย
ลงเอยที่ Hostel ริมคลอง อยู่ใจกลางเมือง ล้อมรอบไปด้วยร้านอาหารต่างๆนาๆ

ราคาไม่แพง 4 คน 90 ริงกิต/คืน (ประมาณ 675 บาท) 









เมื่อชายฉกรรจ์ทััง4 ได้พักผ่อนกายาแล้ว ถึงเวลาที่ออกไปเยี่ยมชมความงดงาม ความเก่าแก่ของเมืองมรดกกันแล้ว โดยได้ปล่อยให้ม้าเหล็กได้พักผ่อนอยู่ที่ Hostel

จุดแรกคือคลองหลังที่พัก บริเวณริมคลองจะเต็มไปด้วยร้านค้าต่างๆมากมายทั้งสองฝั่ง บรรยากาศคล้ายๆริมคลองแสนแสบในกรุงเทพฯ ในคลองจะมีเรือให้บริการนักท่องเที่ยวเพื่อชมเมือง ค่าบริการ 25 ริงกิต/คน

ชายฉกรรจ์ได้เดินเลาะริมคลองไปเรื่อยๆพร้อมเก็บภาพบรรยากาศไปจนถึงจตุรัสแดง






จุดที่สอง คือ จตุรัสแดง เป็นจุด Climax ของเมืองนี้เลย ถูกสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกในปี ค.ศ.1904 ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์และข้างๆจะเป็นโบสถ์



จุดที่สาม คือ Maritime museum เป็นพิพิธภัณฑ์เรือสำเภาโปรตุเกส สมัยที่เมืองมะละกาอยู่ภายใต้การถูกปกครองของโปรตุเกส



เดินไปเดินมาเหล่าชายฉกรรจ์ได้เกิดความหิวโหยขึ้น ทันใดนั้นได้มองไปเห็นร้านขายลอดช่อง (Chendul) เป็นอาหารขึ้นชื่อของเมืองนี้ จึงได้สั่งลอดช่องมานั่งกินเพื่อระงับความกระหาย

ลอดช่องมีหลากหลายมีเมนูให้เลือก มีทั้งแบบธรรมดา แบบที่ใส่ทุเรียน และแบบอื่นๆ
รสชาติบอกเลยว่าไม่ผิดหวัง อร่อยมากกก 
น้ำกะทิหอมๆ มันๆ กินกับลอดช่องนิ่มๆ อร่อยจนอธิบายไม่ถูก แถมราคาก็ไม่แพง แบบธรรมดา ราคา 2.5 ริงกิต ไม่ถึง 20 บาท 

จุดที่สี่ คือ ถนนคนเดิน Chinatown เป็นตลาดนัดกลางคืน ขายอาหาร เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย และอุปกรณ์ต่างๆ 


มะละกาจะเต็มไปด้วยคนมาเลเชื้อสายจีนเป็นส่วนมาก อาหารอิสลามค่อนข้างที่จะหายากหน่อย

ก่อนที่เหล่าชายฉกรรจ์ทั้ง4 จะกลับเข้าที่พำนัก ยามดึกหลังจากชมบรรยากาศของถนนคนเดินเต็มอิ่มแล้วก็ได้ไปต่อที่ร้านกาแฟในตรอกเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยเหล่านักท่องเที่ยว เพื่อเก็บเกี่ยวบรรยากาศและความทรงจำให้ได้มากที่สุดก่อนที่รุ่งเช้าของวันพรุ่งนี้จะมาถึง

Tags:

แสดงความคิดเห็น

0ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น (0)