ท่องเที่ยวก่อนเทศกาลรอมฏอน - น้ำตกในมาเลเซีย

0
เช้าวันนี้นัดกัน 7.30 เช้าจะเริ่มออกเดินทางไปยัง Sungai Tua ซึ่งเป็นอุทยานที่มีลำธารไหลผ่านเหมาะสำหรับการพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็มีเพื่อนๆอีกหลายคนที่ทำงานกะดึกและเลิกงาน 7 โมงเช้าที่ร่วมกันไปทริปนี้ด้วย

ผมถือว่าโชคดีที่เมื่อคืนเป็นวันหยุดและได้มีเวลาพักผ่อน ส่วนเพื่อนๆหลายคนเลิกงานเสร็จก็ต้องรีบแต่งตัวเพื่อที่จะไปร่วมทริปเลยทันทีและไม่ได้พักผ่อนแม้แต่น้อย

ประมาณ 9 โมงเช้า เพื่อนได้ขับรถมารับที่หน้าคอนโดที่พัก โดยรถที่มารับเป็นรถที่เช่ามาอีกทีหนึ่งแต่เป็นของคนไทยที่ทำงานที่นี่เหมือนกัน เป็นรถ 7 ที่นั่ง แต่นั่งได้จริงๆ ประมาณ 5-6 คน ส่วนที่เหลือเอาไว้เป็นที่เก็บของต่างๆ 

หลังจากนั้นได้มุ่งหน้าไปที่กัมปงบารู เพราะจะไปเอาของ อุปกรณ์ปิ้งย่างและเครื่องครัวต่างๆ รวมไปถึงเนื้อและอาหารทะเลบางส่วนที่ได้เพิ่งไปซื้อที่ตลาดเช้า Chokit Market หลังเลิกงาน 7 โมงเช้า

เพื่อนที่ไปซื้อของเล่าให้ฟังว่า ต้องต่อแถวเข้าตลาดยาวมาก ตลาดต้องปฏิบัติตามมาตราการสาธารณะสุข คือจำกัดจำนวนผู้เข้าตลาด รักษาระยะห่าง ไม่แออัด ตรวจอุณหภูมิ และลงทะเบียนก่อนเข้าตลาดทุกครั้ง

เนื่องด้วยจำนวนผู้มาใช้บริการค่อนข้างเยอะเป็นพิเศษการต่อแถวซื้อก็เลยรอค่อนข้างนานหลายชั่วโมงกอปรกับช่วงนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์และพรุ่งนี้ก็จะเข้าสู่ช่วงเทศกาลการถือศิลอดในเดือนรอมฏอนของพี่น้องมุสลิมทั่วโลก

พอไปถึงกัมปงบารู (Kampung Baru) ก็ได้แวะทานข้าว ดื่มน้ำกันก่อนครับที่ร้านอาหารไทยที่ชื่อว่า Mr.Johan 

แต่เนื่องด้วยผมได้กินข้าวเช้าไปจากที่ห้องแล้ว เลยไปนั่งกินน้ำและขนมเท่านั้น

ระหว่างที่อยู่ร้านอาหาร เพื่อนที่ออกไปซื้อของที่ตลาดก็แวะมากินข้าวที่ร้านด้วยกัน หลังจากนั้นก็ได้นั่งพูดคุยเม้ามอยกันจนประมาณ 10 โมงกว่าๆ แล้ว

จากนั้นพวกเราเคลื่อนขบวนออกจากร้านอาหารตรงไปยังห้องพักของเพื่อนที่อพาร์ทเม้น Omar Ali เพื่อขนของทั้งหมดขึ้นท้ายรถ

ลืมบอกไปว่าทริปนี้ไปกันทั้งหมด 8 คน รถยนต์ 1 คัน นั่ง 6 คนรวมคนขับ ส่วนอีก 2 คน ขับมอเตอร์ไซค์ ตามหลังไปคนละคันครับ ( 2 คนที่ขับมอไซค์เป็นคนทำงานกะดึกที่ยังไม่ได้พักผ่อนเลย) แต่ได้ถามพวกเขาแล้วว่าไหวไหม คำตอบที่ได้คือ ไหว

ไม่แน่ใจว่าออกจาก กัมปงบารู (Kampung Baru) กี่โมง ระยะทางจากกัมปงบารูไปน้ำตก (Sungai Tua ) ประมาณ 30 กิโลเมตร


ระหว่างทางที่ไปรถค่อนข้างเยอะมากเป็นพิเศษ เพราะเป็นวันใกล้เดือนรอมฎอน ทุกคนก็อยากไปเที่ยว  พักผ่อนย่อนใจ สังสรรค์และใช้ชีวิตกับครอบครัวเพื่อต้อนรับการมาของเดือนอันประเสริฐในวันพรุ่งนี้

พอใกล้ๆจะถึงที่หมายรถติดอย่างหนักหน่วง ทางเข้าออกอุทยานเป็นอัมพาท ที่จอดรถทั้งด้านในและด้านนอกเต็มหมด ข้างๆทางก็เต็มหมดไม่เว้น 

ในเมื่อหาที่จอดรถไม่ได้ แผนที่วางไว้ก่อนหน้าก็ต้องถูกเปลี่ยนอย่างกะทันหันตามสถานการณ์ ณ ขณะนั้น ด้วยจำนวนยอดผู้มาเยือนมีมากเป็นพิเศษเลยต้องขับรถต่อไปอีกข้างหน้า

เมื่อขับรถต่อไปอีกข้างหน้า บริเวณนั้นจะเป็นป่าที่มีลำธารไหลผ่านเหมือนกันแต่จะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆเลยทั้งสิ้น ริมถนนรถจะจอดกันแน่นเหมือนกัน แต่โชคดีที่ตอนนั้นมีที่จอดรถว่างอยู่พอดี

เมื่อจอดรถเสร็จทุกคนก็ได้ช่วยกันลำเลียงสัมภาระและเสบียงที่นำมาเดินลงไปยังลำธารด้านล่าง 

เส้นทางเดินจะต้องเข้าไปในป่าที่มีบันไดสูงๆ และต้องแบกของหนักๆมากมาย ยอมรับเลยว่าค่อนข้างเหนื่อย บางช่วงจะมีทางลาดชัน แต่ก็จะมีเชือกเป็นตัวช่วยในการปีนลงไป 



พอไปถึงได้เห็นผู้คนเล่นน้ำและปิ้งย่างอยู่ตามลำธารทั้งสองข้างฝั่งค่อนข้างเยอะ


จากนัันได้มีเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มอาสาล่วงหน้าไปก่อนเพื่อไปหาสถานตั้งและปิ้งย่าง 




เนื่องจากบริเวณใกล้ๆนั้น มีคนจับจองกันเต็มหมดแล้ว เพื่อนก็ได้ข้ามลำธารไปอีกฝั่งหนึ่งไม่ได้ไกลมากนัก
จากทางเข้า มีพื้นที่ว่างอยู่เลยปักหลักกันบริเวณนั้นเลยครับ

เมื่อได้ที่หมั่นแล้ว เหล่าบรรดาลูกหาบทุกๆคนก็ต้องลำเลียงเสบียงต่างๆที่นำมาข้ามไปยังที่หมั่นนั้น เสบียงที่ได้นำไปประกอบด้วย เนื้อ ปลาทับทิม ไก่ ลูกชิ้น กุ้ง กล้วย อุปกรณ์เครื่องครัวต่างๆ ที่ปิ้งย่าง ถ่าน น้ำแข็งและน้ำเปล่าครับ 



เมื่อเสบียงได้ข้ามฝั่งไปได้หมดแล้ว ทุกๆคนก็ได้ช่วยกัน จัดเตรียมพื้นที่ จุดไฟ และเตรียมอาหาร



เมื่อถึงเวลาละหมาดดูริ เนื่องด้วยพื้นที่ค่อนข้างจำกัดแต่ละคนก็คอยทยอยกันละหมาดทีละคนสองคน ส่วนคนที่เหลือทำหน้าที่ต่างๆไปก่อน แล้วค่อยสลับกัน 


เมื่ออาหารเสร็จเรียบร้อย ทุกคนก็มากินด้วยกัน พูดคุย ถ่ายรูปกันตามประสา หลังจากเริ่มอิ่มกัน แต่ละคนก็เริ่มทยอยลงไปเล่นน้ำเพื่อคลายความร้อนจากดวงอาทิตย์ที่สาดส่องลงมา ทุกคนเล่นน้ำกันหมด ยกเว้นผมกับเพื่อนอีก 1 คนครับ 



ผมได้เตรียมเสื้อผ้า กางเกงไว้พร้อมแล้วสำหรับการเล่นน้ำ แต่เมื่อไปถึงได้เจอผู้คนค่อนข้างเยอะ เลยเลี่ยงที่จะลงน้ำเพราะป้องกันการติดเชื้อโควิท

พอประมาณ 5 โมง ผู้คนก็ต่างกันทยอยกันกลับ พวกเราทุกคนก็ต่างช่วยกันเก็บของและเตรียมตัวกลับ เพราะถ้ายิ่งมืดการขนก็จะลำบากและอันตรายด้วยเนื่องจากไม่มีไฟฟ้าและแสงสว่างใดๆ ทั้งสิ้น 

ตอนแรกผมคิดว่าของที่หนักๆ จากการขนเข้ามาจะเบาขึ้นตอนจะขนกลับ แต่เมื่อถึงเวลาจริงๆกลับไม่ต่างกันเลยกับตอนแรก อีกอย่างค่อนข้างเหนื่อยกว่าเดิมอีกเพราะต้องเดินขึ้นเขาและบันใดที่ชันมากๆ แต่ถึงอย่างนั้นเหล่าลูกหาบทุกๆคนก็ขนของกลับกันได้ครับและปลอดภัย 

ขากลับรถค่อนข้างติดหนักกว่าเดิม เคลื่อนได้ทีละนิดบวกกับไฟเขียวแต่ละแยกไม่ถึง 10 วินาที เลยต้องแวะละหมาดและเติมน้ำมันกันข้างทาง พอละหมาดเสร็จรถก็ได้ขยับอีกครััง และก็ได้มุ่งหน้าสู่ Kuala lumpur เลยทันที แถมมีน้ำฝนคอยตกมาทักทายเป็นระยะๆ จนถึงที่พัก


#ท่องเที่ยวในต่างประเทศ #เดินดูโลก #สถานที่เที่ยวต่างแดน #เที่ยวต่างประเทศคนเดียว #แบกเป้เที่ยว #น้ำตกในมาเลเซีย  #ประเทศเพื่อนบ้านของไทย #สถานที่เที่ยวในมาเลเซีย 
Tags:

แสดงความคิดเห็น

0ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น (0)