เวลาเปลี่ยนอะไรๆก็เปลี่ยนไป

0

ไม่ได้กลับบ้านนานเลยไม่ชินหรือว่าเพราะเราถูกสังคมและวัฒนธรรมอื่นกลืนกิน??

นี้อาจจะเป็นคำถามตัวโตๆสำหรับใครหลายๆคนห่างหายไปนานจากบ้านเกิด นานๆกว่าจะได้กลับมาบ้านสักครั้งหนึ่ง

การห่างหายจากบ้านเกิดของผมเกิดขึ้นครั้งแรกหลังจากที่ผมได้เรียนจบป.6 ถูกส่งให้ไปอยู่โรงเรียนประจำซึ่งอยู่คนละอำเภอกัน 1 อาทิตย์จะได้กลับบ้าน 1 ครั้ง

เมื่อจบจากมัธยมต้นได้ย้ายไปเรียนมัธยมปลายอีกโรงเรียนหนึ่งซึ่งอยู่ไกลบ้านไปอีกแต่ก็ยังอยู่ในจังหวัดเดียวกัน ความถี่ในการกลับบ้านก็น้อยลงไปอีก 2-3 อาทิตย์ ต่อการได้กลับบ้านสักครั้ง


เมื่อจบมัธยมปลายก็ได้ไปเรียนต่อระดับปริญญาตรีซึ่งอยู่ต่างจังหวัดระยะทางก็ค่อยๆห่างจากบ้านเป็นหลายร้อยกิโล กว่าจะได้กลับบ้านก็เป็นเดือน

เมื่อเรียนจบระดับปริญญาตรีก็ได้มีโอกาสได้ไปศึกษาต่อระดับปริญญาโท ซึ่งคราวนี้ระยะทางค่อนข้างห่างจากบ้านเกิดเป็นระยะทางกว่าพันกิโล ข้ามน้ำข้ามทะเล ความถี่ในการได้กลับบ้านแทบริบหรี่ ปีละครั้ง

เรียนจบแล้วก็ได้ทำงานที่ประเทศเพื่อนบ้าน อาหาร วัฒนธรรม ไม่ต่างจากไทยมากนักแต่สิ่งที่ต่างอย่างชัดเจนนั้นคือภาษา

การเดินทางกลับบ้านเป็นเรื่องไม่ได้ยากนักแต่อาจจะใช้เวลานานหน่อย ความถี่ในการได้กลับมาเยื่ยมบ้านประมาณปีละ 2 ครั้งหรือ 6 เดือนครั้ง

แต่เมื่อทำงานเข้าสู่ปีที่3 โรคระบาดก็ได้มาเยี่ยมเยือนเหล่ามนุษยชาติ ทำให้ยากต่อการเดินทางกลับบ้านและยากต่อการใช้ชีวิต

1 ปีกับอีก 6 เดือนที่ต้อง Work from home อยุ่แต่ในบ้าน จนสุดท้ายได้ตัดสินใจลาออก

1 ปีกับอีก 6 เดือนเป็นช่วงระยะเวลาที่ยาวนานที่สุดที่ไม่ได้กลับไปเยี่ยมบ้านเลย

การกลับบ้านมาในรอบนี้ทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของสิ่งต่างๆอย่างมากมาย หนึ่งในนั้นคือเรื่องของภาษา

เมื่อ 3 วันก่อน ผมได้พาแม่ออกไปซื้อกับข้าวที่ร้านค้าในหมู่บ้าน ร้านค้าจะตั้งอยู่ในตรอกซอกซอยเล็กๆ ไม่สะดวกที่จะขับมอไซต์เข้าไป

ผมเลยจอดมอไซต์หน้าปากซอย พร้อมกับรอแม่อยู่บริเวณนั้น ส่วนแม่ก็เดินเข้าไปซื้อกับข้าวภายในซอยเล็กๆ

ในขณะที่รอแม่ซื้อกับข้าว ผมได้ยินเสียงแม่ลูกคู่หนึ่งกำลังสนทนากันว่า
แม่: อีไปไหน
ลูก: อีออกไปข้างนอก
แม่ : ซื้อลูกแป้นมาถุงกัน

เมื่อบทสนทนาได้จบลง เหมือนกับผมได้ย้อนเวลากลับไปยังวัยเด็กๆที่ยังคงคุ้นเคยกับคำเหล่านี้

คำว่าลูกแป้น ในภาษาใต้ หมายถึงส้ม (ทุกชนิดไม่ได้แยกประเภท)
คำว่าส้ม ถ้าใช้ในบริบทของรสชาติ หมายถึง เปรี้ยว
และคำว่าส้ม ถ้าใช้ในบริบทของกลิ่น หมายถึง เหม็น

การได้กลับมาอยู่บ้านในครั้งนี้ ทำให้ได้รู้สึกถึงกลิ่นอายของชีวิตในวัยเด็ก รสชาติอาหารที่คุ้นเคย และภาษาที่ได้คุ้นหูในอดีต เหมือนได้เติมเติมสิ่งที่ได้ขาดหายให้กลับมาอีกครั้ง...

เลยไม่แน่ใจว่า เราไม่ได้กลับบ้านนานเลยไม่ชินหรือว่าเพราะเราถูกสังคมและวัฒนธรรมอื่นกลืนกิน???

แล้วเพื่อนๆละครับเคยเป็นเหมือนกันบ้างไหม?????


Tags:

แสดงความคิดเห็น

0ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น (0)