คนที่มีภูมิลำเนาตั้งแต่จังหวัดสงขลาและเหนือจังหวัดสงขลาขึ้นไปจะได้อยู่สถานกักตัวของจังหวัดสงขลา
ส่วนคนที่อยู่ในพื้นที่ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส จะต้องกลับไปกักตัวในภูมิลำเนาโดยมีรถไปส่งถึงที่
เมื่อจัดสรรสถานที่กักตัวเสร็จ ก็ต้องไปนั่งต่อแถวเพื่อลงทะเบียนกับทางกรมควบโรคต่อและทำการจ๊อบพาสปอร์ตเข้าเมืองไทย (ขั้นตอนตรงนี้จะค่อนข้างนานพอสมควร)
เมื่อเสร็จทุกอย่าง เจ้าที่หน้าจะเรียกเพื่อให้เดินไปรอขึ้นรถ(ก่อนขึ้นรถต้องเซ็นเอกสารอีกครั้ง)
เมื่อรถมาถึง(รถ2แถว) ก็เริ่มทยอยขึ้นรถพร้อมกับสัมภาระต่างๆ (จำนวนผู้เพื่อนร่วมทางของผมมีทั้งหมด 5 คน บางคันอาจจะเยอะกว่านั้น)
นั่งรถไปประมาณ 5-10 นาทีก็ถึงที่พักแล้ว ระยะทางจากด่านไปยังที่กักตัวประมาณ 1 กิโลได้ (อันนี้เดาเอาครับ)
สถานที่กักตัวที่ผมจะต้องอยู่ต่อไปอีก 14 วันนั้นก็คือ โรงแรมสาธิต แกรนด์วิว
เมื่อไปถึงโรงแรมสิ่งแรกที่ต้องทำคือวางสัมภาระทุกอย่างแล้วไปนั่งต่อแถวเพื่อฟังการปฐมนิเทศน์ ขั้นตอนการปฏิบัติตัว และทำการซักประวัติว่าเดินทางมาจากรัฐไหน มีอาการอะไรหรือเปล่า วัดอุณหภูมิ เซ็นเอกสาร (บอกเลยกรอกเอกสารและเซ็นต์ชื่อหลายรอบมาก็ตั้งแต่ย่างเท้าเข้าประเทศไทย) หลังจากนั้นก็รับคีย์การ์ดและกุญแจเพื่อเข้าที่พัก
ที่พักเราจะต้องขึ้นลิฟท์ไปหาห้องเองพร้อมกับแบกสัมภาระทั้งหมดด้วย(อย่างที่บอกก่อนหน้านี้ว่าให้พาของเท่าที่จำเป็นเท่านั้น)
เมื่อเข้าไปในที่พักแล้วนั้นคือเวลาแห่งการพักผ่อนแบบยาวๆ 14 วันในห้อง4 เหลี่ยมๆ ไม่สามารถออกไปไหนได้เลย
ส่วนคนที่อยู่ในพื้นที่ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส จะต้องกลับไปกักตัวในภูมิลำเนาโดยมีรถไปส่งถึงที่
เมื่อจัดสรรสถานที่กักตัวเสร็จ ก็ต้องไปนั่งต่อแถวเพื่อลงทะเบียนกับทางกรมควบโรคต่อและทำการจ๊อบพาสปอร์ตเข้าเมืองไทย (ขั้นตอนตรงนี้จะค่อนข้างนานพอสมควร)
เมื่อเสร็จทุกอย่าง เจ้าที่หน้าจะเรียกเพื่อให้เดินไปรอขึ้นรถ(ก่อนขึ้นรถต้องเซ็นเอกสารอีกครั้ง)
เมื่อรถมาถึง(รถ2แถว) ก็เริ่มทยอยขึ้นรถพร้อมกับสัมภาระต่างๆ (จำนวนผู้เพื่อนร่วมทางของผมมีทั้งหมด 5 คน บางคันอาจจะเยอะกว่านั้น)
นั่งรถไปประมาณ 5-10 นาทีก็ถึงที่พักแล้ว ระยะทางจากด่านไปยังที่กักตัวประมาณ 1 กิโลได้ (อันนี้เดาเอาครับ)
สถานที่กักตัวที่ผมจะต้องอยู่ต่อไปอีก 14 วันนั้นก็คือ โรงแรมสาธิต แกรนด์วิว
เมื่อไปถึงโรงแรมสิ่งแรกที่ต้องทำคือวางสัมภาระทุกอย่างแล้วไปนั่งต่อแถวเพื่อฟังการปฐมนิเทศน์ ขั้นตอนการปฏิบัติตัว และทำการซักประวัติว่าเดินทางมาจากรัฐไหน มีอาการอะไรหรือเปล่า วัดอุณหภูมิ เซ็นเอกสาร (บอกเลยกรอกเอกสารและเซ็นต์ชื่อหลายรอบมาก็ตั้งแต่ย่างเท้าเข้าประเทศไทย) หลังจากนั้นก็รับคีย์การ์ดและกุญแจเพื่อเข้าที่พัก
ที่พักเราจะต้องขึ้นลิฟท์ไปหาห้องเองพร้อมกับแบกสัมภาระทั้งหมดด้วย(อย่างที่บอกก่อนหน้านี้ว่าให้พาของเท่าที่จำเป็นเท่านั้น)
เมื่อเข้าไปในที่พักแล้วนั้นคือเวลาแห่งการพักผ่อนแบบยาวๆ 14 วันในห้อง4 เหลี่ยมๆ ไม่สามารถออกไปไหนได้เลย
ที่พักสบาย สะอาด มีทีวี อินเตอร์เน็ต ตู้เย็น กระติกน้ำร้อน เครื่องปรับอากาศ โต๊ะ เก้าอี้ เครื่องทำน้ำอุ่น และอาหารฟรี
การเป็นอยู่ในสถานที่กักตัวและการตรวจโควิด
อาหาร
ในแต่ละเช้าของทุกๆวัน ประมาณ 7-8 โมง จะมีพี่พนักงานคอยเดินแจกอาหารแขวนไว้ตามหน้าห้องของทุกคนเมนูอาหารส่วนใหญ่จะเป็นข้าวแกง(ข้าวเปล่าใส่หอ+แกง+ไข่ต้ม) บางวันมื้อเช้าจะเป็นข้าวต้มและตอนเย็นจะเป็นผัดก๋วยเตี๋ยว ส่วนมื้อเที่ยงเป็นข้าวแกงทุกวันครับ แกงจะประกอบไปด้วย แกงส้มปลา ผัดกระเพราไก่ ผัดเผ็ดไก่ ปลาทอด ไข่ดาว แกงเขียวหวานไก่ ไก่ผัดขิง ปลาราดพริก และเมนูอื่นๆ (แต่จำได้ประมาณเท่านี้ครับ) เมนูเหล่านี้จะถูกวนเวียนกันทั้งหมด14 วันของการกักตัว
มื้อเที่ยง พนักงานจะมาส่งอาหารให้ประมาณ 11.30 เป็นต้นไป บางวันก็ช้ากว่านั้น
มื้อเย็น พนักงานจะมาส่งอาหารให้ประมาณ 5 โมงเย็น (อาหารจะถูกแขวนไว้หน้าประตูทุกมื้อ)
บางคนอาจจะเบื่อกับอาหารที่ทางโรงแรมจัดให้ ทางโรงแรมก็ได้อนุญาตให้คนที่กักตัวสามารถสั่งอาหารจากข้างนอกได้(จะมีกลุ่มไลน์แม่ค้าพ่อค้าไว้สำหรับออเดอร์สินค้า) สามารถสั่งได้ทุกวัน
ส่วนสำหรับมุสลิมที่กังวลเรื่องอาหารฮาล้าลไหม: ผมแนะนำให้สั่งปลากระป๋องและมาม่าไว้ครับเพราะผมได้โทรสอบถามจากเจ้าหน้าที่และแม่ค้าข้างนอก คำตอบที่ได้คือ ทางโรงแรมจะทำอาหารทางสายกลางไม่มีหมูแต่คนทำไม่ใช่มุสลิม
การตรวจโควิด
ทุกๆเช้าประมาณ 8-9 โมงของวันจะมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะมาเคาะประตูห้องเพื่อมาวัดอุณหภูมิและสอบถามอาการต่างๆ โดยเจ้าหน้าที่จะมาในชุดแบบจัดเต็ม PPE เมื่อวัดอุณหภูมิเสร็จเจ้าหน้าจะให้เซ็นชื่อ(แต่พอหลังจากนั้นไม่นานได้มีคนท้วงติงเนื่องจากต้องใช้ปากการ่วมกันในการเซ็นต์ชื่อ เจ้าหน้าที่เลยได้ทำการยกเลิกขั้นตอนนั้นไป)**ลืมบอกอุณหภูมิจะวัดวันละครั้ง**
วันที่4 ของการอยู่ที่กักตัว หลังจากวัดอุณหภูมิเสร็จในตอนเช้า เจ้าหน้าที่จะบอกให้เราเดินลงไปชั้น2 เพื่อทำการตรวจโควิดครั้งแรกโดยวิธีการแหย่จมูก
ขั้นตอนการปฏิบัติคือ เดินลงไปชั้น 2 นั่งรอเรียกชื่อจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล(คนค่อนข้างเยอะ) เมื่อถึงคิวเรา ก็เดินเข้าไป เจ้าหน้าที่ข้างในจะถามชื่ออีกครั้งเพื่อป้องกันการผิดพลาด หลังจากนั้นก็เดินไปนั่ง และเจ้าหน้าที่บอกว่าเอาแมสลงมาปิดบอกพร้อมกับบอกว่าเจ็บนิดหน่อยนะครับ หลังจากนั้นก็ทำการแหย่จมูก(บอกตามตรงครับลึกมากๆๆๆ พร้อมกับน้ำตาไหล เป็นครั้งแรกที่โดน) ถ้าถามว่าเจ็บไหม! ก็ไม่ถึงกับเจ็บครับ เมื่อเสร็จก็ขึ้นกลับห้องเลยในทันที
เมื่อตรวจครั้งแรกเสร็จ 1-2 วัน ผมก็แอบสงสัยทำไมเจ้าหน้าที่ไม่แจ้งผลตรวจ ผมก็เลยถามเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่มาวัดอุณหภูมิให้ทุกๆเช้า เขาบอกว่าถ้าผลปกติก็จะไม่มีการแจ้งใดๆ แต่ถ้าใครผลออกมาเป็นบวก(ติดโควิด) เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลจะมารับตัวไปโรงพยาบาลในทันทีเพื่อป้องกันการแตกตื่น
หลังจากนั้นก็อยู่ว่างๆยาวๆไปครับ ตรวจโควิดอีกทีวันที่ 8 และ 12 ของการกักตัว โดยเจ้าหน้าที่จะมาแจ้งให้ทราบ
เมื่อตรวจโควิดเสร็จทั้ง 3 ครั้ง ในวันที่ 13 กลางคืนเจ้าหน้าที่จะมาแจกใบผลตรวจโควิดเพื่อเป็นใบรับรองให้กับเรา หลังจากนั้นก็เตรียมตัวจัดกระเป๋าเพื่อกลับบ้านครับ
***ผลตรวจโควิดของผม เป็นลบทั้งหมดครับ**
ปล. วันที่ตรวจโควิดของแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันครับขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ครับ
ปล2. น้ำดื่มทางโรงแรมจะแจกให้2โหล แต่เมื่อหมดต้องซื้อครับ
แสดงความคิดเห็น
0ความคิดเห็น